6 ข้อควรรู้ในการลงทุน อสังหาริมทรัพย์ในช่วงเศรษฐกิจขาลง 

6 ข้อควรรู้ในการลงทุน อสังหาริมทรัพย์ในช่วงเศรษฐกิจขาลง 

6 ข้อควรรู้ในการลงทุน อสังหาริมทรัพย์ในช่วงเศรษฐกิจขาลง 

รับฝากขายบ้าน คอนโด ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ – ฝากขายบ้านฟรี

ในช่วงเศรษฐกิจอยู่ในช่วงขาลง ที่เกิดจากผลกระทบของโรคระบาดโควิด 19 ที่อยู่กับเรามานานเกือบ 3 ปี และในช่วงเวลาที่ผ่านมา นั้นระบบเศรษฐกิจต่างๆ ได้รับผลกระทบแทบจะทุกอย่าง ทำให้ระบบเศรษฐกิจในไทยและระบบเศรษฐกิจโลกต่างอยู่ในช่วงขาลง และการลงทุนต่างๆ ก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน และการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ต่างก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกันแต่อาจจะน้อยกว่าการลงทุนในรูปแบบอื่นๆ ซึ่งผลกระทบนี้ ทำให้มีโครงการอสังหาริมทรัพย์ อย่างเช่น คอนโด ที่พยายามระบายสต๊อกของคอนโด โดยการ หั่นราคา ลดราคา และของแถมต่างๆ เพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าให้เข้ามาซื้อคอนโด จึงเป็นผลดีต่อนักลงทุนต่างๆ ถือว่าเป็นช่วงเวลาทองของเหล่านักลงทุน ถึงแม้ระบบเศรษฐกิจจะอยู่ในช่วงขาลง แต่การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ กลับเป็นช่วงเวลาที่เหมาะและดีกับนักลงทุน

6 ข้อควรรู้ในการลงทุน อสังหาริมทรัพย์ในช่วงเศรษฐกิจขาลง 

สำหรับช่วงเศรษฐกิจขาลงแบบนี้ การลงทุนอสังหาริมทรัพย์กลับเฟื่องฟูและเป็นผลดีต่อนักลงทุนมากๆ ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนมือทองและนักลงทุนมือใหม่ เพราะเกิดจากที่ทางโครงการ ต้องการที่จะระบายสต๊อกของโครงการ ทำให้มีการลดราคา และของแถมต่างๆ เพื่อเป็นการดึงดูดลูกค้า เป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการลงทุนมากๆ สำหรับคนที่ต้องการลงทุน เพื่อสร้าง Passive Income ให้กับตนเอง แต่การที่เราจะลงทุนต้องเตรียมความพร้อมมาพอสมควร ทั้งเงินทุนในการลงทุน เงินทุนสำรองต่างๆ การจัดการต่างๆ ที่จะเข้ามาในระยะเวลาในการลงทุน ไม่ใช่เห็นโครงการลดราคา แล้วตัดสินลงทุนโดยไม่ศึกษาก่อน การลงทุนนั้นอาจจะสูญเปล่า ดังนั้นก่อนจะลงทุนจะต้องศึกษา โดย 6 ข้อควรรู้ในการลงทุน อสังหาริมทรัพย์ ที่ควรรู้ก่อนลงทุน

อยากลงทุนคอนโด บ้าน และอสังหาริมทรัพย์ทุกชนิด กับเรา คลิก!

1.เริ่มจากสิ่งง่ายๆโดยการสำรวจตลาดและทำเลที่จะลงทุน 

ในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ทำเล ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมากๆ เป็นตัวบ่งชี้ ว่าการลงทุนของเราจะไปได้ดีหรือไม่ เพราะคนส่วนมากจะเลือกซื้อหรือเช่า บ้าน คอนโด ส่วนมากจะดูทำเลเป็นอันดับแรก ก่อนที่จะทำการลงทุนเราควรที่จะไปสำรวจทำเลนั้นๆ ว่า เหมาะกับการลงทุนหรือไม่ และดูพื้นที่โดยรอบว่ามีโครงการบ้าน หรือ คอนโดอื่นๆ มากน้อยแค่ไหน เพราะถ้ามีเยอะจนเกินไป เวลาหาลูกค้า ก็จะหายากมากยิ่งขึ้น เพราะลูกค้าจะมีตัวเลือกเยอะ และดูด้วยว่าในอนาคตจะมีโครงการใหม่ๆ มาตั้งอยู่ใกล้บริเวณนี้หรือไม่ เพราะถ้ามีโครงการใหม่ก็จะเป็นการดึงความน่าสนใจของโครงการที่เราลงทุนอยู่ลูกค้าจะไปหาโครงการใหม่ๆ มากกว่า เมื่อคิดจะลงทุน ควรที่จะไปสำรวจพื้นที่ที่เราจะทำการลงทุนก่อน เพื่อที่จะได้วางแผนก่อนที่เราจะลงทุน

2.ราคาจองโครงการที่เราจะลงทุน

ราคาของโครงการที่เราจะลงทุน เป็นอีกสิ่งสำคัญมากๆ เพราะการที่เราจะลงทุนจะต้องเลือกโครงการที่ราคาดี และคุณภาพจะต้องดีด้วย ก่อนลงทุนเราควรที่จะเปรียบเทียบราคาของบ้านหรือคอนโด ที่เราจะทำการลงทุน โดยจะต้องเลือกโครงการไว้ในใจสัก 2-3 โครงการ เพื่อนำมาเปรียบเทียบ ทั้งเรื่องของราคาและ คุณภาพและความน่าสนใจต่างๆ เพื่อที่จะได้โครงการที่ดีที่สุด ลองส่องหาโครงการใหม่ที่ยังสร้างไม่เสร็จ หรือโครงการเก่าที่สร้างเสร็จแล้ว แต่ยังคงมีค้างสต๊อก หรือดูโครงการมือสองที่มีคุณภาพดี ที่ยังคงมีการปล่อยขายอย่างต่อเนื่อง หรือแม้กระทั่งโครงการเก่าที่ได้เปรียบในเรื่องของทำเล บางโครงการเทขายออกมาแบบต่ำกว่าราคาเฉลี่ยของตลาด แต่สภาพยังดี สภาพเอื้อต่อการอยู่อาศัย และบางโครงการยังที่มีสถิติการเช่าที่ดีต่อเนื่อง ดังนั้นควรเลือกโครงการที่เหมาะกับการลงทุน เลือกดีๆ เปรียบเทียบจนกว่าจะได้โครงการที่ดี

3.เลือกทำเลที่ดี 

ทำเลที่ดี ไม่เพียงแค่ปัจจัยเดิมอย่า ใกล้ระบบขนส่งสาธารณะ และติดถนนหลักเดินทางง่ายและสะดวกอีกต่อไป เพราะ ทำเลที่ดี จะต้องเอื้อประโยชน์ต่อการใช้ชีวิต และที่สำคัญสำหรับการลงทุนคือ ต้องเป็นทำเลที่ตอบสนองความต้องการกำลังซื้อที่แท้จริง (Real Demand) ไม่ว่าจะอยู่ใกล้ออฟฟิศต่างๆ และสถานที่สำคัญอย่าง ห้างสรรพสินค้า โรงเรียน และสถานที่อำนวยความสะดวกต่างๆ สิ่งเหล่านี้จะเป็นอีกตัวดึงดูดกลุ่มลูกค้าให้เข้ามาเช่า หรือซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่เราลงทุนอยู่

4.เลือกลงทุนกับผู้พัฒนา Developer ที่น่าเชื่อถือ

ผู้พัฒนาถือว่าเป็นอีกสิ่งที่บางคนมองข้าม เพราะมองว่าไม่สำคัญ แต่จริงๆ แล้วผู้พัฒนาคือสิ่งที่สำคัญอีกอย่างสำหรับนักลงทุน เพราะชื่อเสียงของผู้พัฒนาถือเป็นอีกตัวการันตีผลสำเร็จในการลงทุน โดยเฉพาะสำหรับตลาดการซื้อ-ขายเพื่อเก็งกำไร ปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้พัฒนาแบรนด์ใหญ่ที่มีมาตรฐาน และมีชื่อเสียงมักจะได้เปรียบกว่าผู้พัฒนารายย่อย เพราะคนที่จะมาซื้อต่อ จะดูชื่อผู้พัฒนาว่าเป็นใคร ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ

5.การสำรวจพอร์ตอสังหาริมทรัพย์ของตัวเอง

สำหรับคนที่ลงทุนอสังหาริมทรัพย์มากกว่าหนึ่งขึ้นไป จะต้องดูว่าการลงทุนของเรานั้น ไม่ได้ กระจุกตัวที่รูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ซึ่ง 50% ของมูลค่าการลงทุนนั้นไม่ได้ผูกติดกับสินทรัพย์ระดับใดระดับหนึ่ง ควรที่จะกระจายการลงทุนแต่ละประเภทในระดับไม่เกิน 25% หรือ 33% ของมูลค่าสินทรัพย์ทั้งหมด เพื่อลดปัญหาการลงทุนที่จะเกิดขึ้นในภายหลัง

6.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

ภาษีต่างๆ ที่เราจะต้องการจ่าย เมื่อบวกลบคูณหารแล้ว เรายังมั่นใจว่าผลตอบแทนยังคุ้มค่า โครงการต่างๆ ที่จะทำการลงทุนเราควรที่จะศึกษาเรื่องนี้ ว่าค่าภาษีต่างๆ ที่เราจะจ่ายมีอะไรบ้าง และการลดหย่อนภาษี เพราะเราสามารถนำอสังหาริมทรัพย์ไปลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย

ถึงเศรษฐกิจโลกจะอยู่ในช่วงขาลง แต่การลงทุนอสังหาริมทรัพย์เป็นสิ่งที่น่าลงทุนมากกว่าการลงทุนรูปแบบอื่นๆ เพราะมีปัจจัยต่างๆ ที่เอื้อต่อนักลงทุนต่างๆ ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการลงทุน แต่การลงทุนควรที่จะเตรียมตัวให้พร้อมทำการลงทุนทุกครั้ง

อ่านบทความ การลงทุน เพิ่มเติม

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *