เจ้าของธรุกิจ SME จะกู้บ้านจะต้องทำอย่างไรจึงจะกู้ผ่าน

รับฝากขายบ้าน คอนโด ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ – ฝากขายบ้านฟรี

การกู้ซื้อบ้านสำหรับเจ้าของธุรกิจ SME อาจจะต้องเตรียมตัวมากกว่ามนุษย์เงินเดือนที่ เพราะเจ้าของธุรกิจ ถึงแม้จะมีรายได้มากแค่ไหน ขายของดีแค่ไหน การกู้จะต้องมีหลักฐานเอกสารที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเอกสารส่วนตัว เอกสารด้านการเงิน เพราะทางสถาบันทางเงินไม่สามารถตรวจสอบที่มาของรายได้ และมองว่าเจ้าของธุรกิจ SME มีรายได้ไม่แน่นอน ไม่สามารถตรวจสิบที่มาของรายได้ เหมือนกับมนุษย์เงินเดือนที่สามารถตรวจสอบที่มาของรายได้ได้ แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับเจ้าของธุรกิจ SME ไม่ต้องกังวลไปว่า จะกู้ไม่ได้ กู้ไม่ผ่าน สามารถกู้ได้ แต่จะต้องเตรียมตัว และเตรียมเอกสารต่างๆ ให้ครบ เพื่อที่ทางสถาบันทางการเงินจะได้พิจารณาและอนุมัติเร็วมากยิ่งขึ้น

ขั้นตอนเตรียมตัว สำหรับ เจ้าของธรุกิจ SME ที่ต้องการกู้บ้าน

ขั้นตอนสำหรับเจ้าของธุรกิจที่ไม่มีเงินเดือนประจำที่ต้องการกู้บ้านจะต้องเตรียมตัว เตรียมเอกสารต่างๆ ให้ครบ เพื่อที่จะได้ยื่นกู้ง่ายมากยิ่งขึ้น โอกาสกู้ผ่านเพิ่มมากยิ่งขึ้น

อยากลงทุนคอนโด บ้าน และอสังหาริมทรัพย์ทุกชนิด กับเรา คลิก!

ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ

ขั้นตอนแรกที่จะต้องทำเมื่อเริ่มทำธุรกิจเป็นของตนเอง การทำบัญชีรายรับรายจ่ายถือเป็นอีกหนึ่งเอกสารสำคัญในการยื่นกู้ซื้อบ้าน เพราะจะเป็นเอกสารยืนยันรายได้ ทางสถาบันทางการเงินจะใช้เอกสารบัญชีรายรับรายจ่าย เป็นเอกสารตรวจสอบรายได้แทนสลิปเงินเดือน ดังนั้นตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจต่างๆ ควรที่จะทำบัญชีรายรับรายจ่ายทุกๆ เดือน และยิ่งมีบัญชีรายได้รายที่ชัดเจน สามารถตรวจสอบได้ การพิจารณาก็จะยิ่งง่ายมากยิ่งขึ้น

เอกสารสำคัญต่างๆในการยื่นกู้

เอกสารที่จะต้องใช้ในการยื่นกู้ มีตั้งแต่เอกสารส่วนตัวเอกสารยืนยันตัวตน และเอกสารเกี่ยวกับธุรกิจที่ทำ เพื่อนำเอกสารเหล่านี้ไปยื่นกู้ ในส่วนของเอกสารที่เกี่ยวกับธุรกิจ ก็จะมีตั้งแต่ทะเบียนการค้า ทะเบียนพาณิชย์ ที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่สำหรับเจ้าของธุรกิจออนไลน์ที่ไม่ได้จดทะเบียนการค้า ก็สามารถยื่นกู้ได้เช่นกัน ซึ่งเอกสารยืนยันทางการค้า ได้แก่ เอกสารหลักฐานทางการค้าออนไลน์ เพจเฟสบุ๊คและอินสตาแกรม สามารถแคปหน้าจอ เพื่อใช้เป็นหลักฐานทางการค้า ทางสถาบันทางการเงินจะดู ตั้งแต่จำนวนผู้ติดตาม สินค้าที่ขาย และวันเเละเวลาในการเปิด การขาย เพื่อเป็นหลักพิจารณาทางรายได้

เอกสารส่วนตัวมีดังนี้

บัตรประจำตัวประชาชน / บัตรข้าราชการ / บัตรรัฐวิสาหกิจ
สำเนาทะเบียนสมรส / ใบหย่า / ใบมรณะบัตร (คู่สมรส) (ถ้ามี)
สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ – สกุล (ถ้ามี)
สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนคู่สมรส (ถ้ามี)

เอกสารเกี่ยวกับธุรกิจ/เอกสารทางการเงิน

สำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 12 เดือน
สำเนาทะเบียนการค้า/ทะเบียนบริษัท/ห้างหุ้นส่วน
หลักฐานการเสียภาษีเงินได้
รูปถ่ายกิจการ
สำเนาใบประกอบวิชาชีพ(ถ้ามี)
บัญชีรายรับรายจ่ายตั้งแต่เปิดกิจการ
กรณีธุรกิจออนไลน์ เอกสารหลักฐานทางการค้าออนไลน์ เพจเฟสบุ๊คและอินสตาแกรม แคปหน้าจอเพื่อใช้เป็นหลักฐาน

เปิดบัญชีออมทรัพย์

การเปิดบัญชีออมทรัพย์ เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญ สำหรับเจ้าของธุรกิจที่ไม่มีสลิปเงิน การเปิดบัญชีออมทรัพย์ เพื่อทำการเก็บเงินเพื่อทำการวางดาวน์ ซึ่งจะเป็นการลดอัตราดอกเบี้ยที่อาจจะสูงเกินไป การออมเงินในบัญชีควรเริ่มทำตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจ และจะต้องฝากทุกเดือนเพื่อให้มีเงินหมุนเวียนในบัญชี ซึ่งบัญชีออมทรัพย์สามารถนำไปใช้เป็นหลักฐานทางการเงินแทนสลิปเงินเดือนได้ เพื่อนำไปเป็นหลักฐานทางการเงินเพื่อยื่นกู้กับสถาบันทางการเงิน ซึ่งบัญชีออมทรัพย์หรือบัญชีเงินฝากจะต้องมีเงินหมุนเวียนอย่างน้อย 6-12 เดือนเป็นอย่างต่ำ ถ้าสร้างเครดิตตรงนี้ดี การพิจารณาก็จะง่ายมากยิ่งขึ้น

สร้างเครดิตที่ดีด้วยการ บัตรเครดิต

สำหรับบางคนอาจจะมองการทำบัตรเครดิต จะเป็นการสร้างหนี้เพิ่ม แต่จริงๆ แล้วการสมัครบัตรเครดิตเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะให้เรามีเครดิตในการชำระหนี้ ว่ามีการชำระหนี้ตรงตามที่กำหนดไว้หรือไม่ เพราะทางสถาบันทางการจะดูพฤติกรรมการชำระหนี้ว่าตรงตามที่กำหนดไว้หรือไม่ เพราะทางเราไม่เคยมีหนี้ ทางสถาบันจะไม่ทราบพฤติกรรมในการชำระหนี้ การพิจารณาจะยากมากยิ่งขึ้น แต่สำหรับคนที่มีบัตรเครดิตและชำระหนี้ตรงตามเวลาที่กำหนดทุกครั้ง ซึ่งแสดงว่าผู้กู้มีวินัยและความสามารถในการชำระหนี้ การอนุมัติและพิจารณาจะง่ายมากยิ่งขึ้น

เคลียร์หนี้ทั้งหมดที่มีอยู่

การเคลียร์หนี้ที่มีอยู่ให้หมดเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ควรเคลียร์ก่อนที่ทำการกู้บ้าน เพราะถ้ามีภาระหนี้สินมากจนเกินไป ทางสถาบันทางการเงินจะพิจารณาว่าคุณสมบัติไม่ผ่านเพราะหนี้สินเยอะจนเกินไป และยิ่งที่อยู่สถานะปลอดหนี้ จะทำให้มีโอกาสในการกู้ผ่านมากยิ่งขึ้น

อ่านบทความ การลงทุน เพิ่มเติม