5 เช็กลิสต์ ที่ควรเช็กก่อนที่จะทำการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ทุกครั้ง

5 เช็กลิสต์ ที่ควรเช็กก่อนที่จะทำการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ทุกครั้ง

5 เช็กลิสต์ ที่ควรเช็กก่อนที่จะทำการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ทุกครั้ง

รับฝากขายบ้าน คอนโด ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ – ฝากขายบ้านฟรี

การลงทุนอสังหาริมทรัพย์เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ และใช้เงินทุนในการลงทุนค่อนข้างสูง ในการลงทุนในแต่ละครั้งจะต้องศึกษารูปแบบการลงทุนให้ชัดเจน ก่อนทำการลงทุน การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ มีตั้งแต่วิธีง่ายๆ อย่าง การซื้อไว้เพื่อปล่อยเช่า เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมและได้กำสูง ได้กำไรอย่างสม่ำเสมอ สร้าง Passive income หรือจะเป็นการลงทุนแบบเก็งกำไร ที่ได้กำไรสูงและกำไรก้อนโต ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในรูปใดก็แล้วแต่ ก็ควรที่จะศึกษาและทำความเข้าใจในรูปแบบการลงทุนนั้นให้ดีเสียก่อน ดังนั้นก่อนที่เราจะทำการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ จะต้อง เช็กลิสต์ กับ 5 ขั้นตอนเช็กลิสต์ง่ายๆ เพื่อที่จะทำให้การลงทุนของเรามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและได้ผลกำไรมากยิ่งขึ้น

5 เช็กลิสต์ ที่ควรเช็กก่อนที่จะทำการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ทุกครั้ง เพิ่มสร้างผลกำไรที่ดีในการลงทุน 

ก่อนทำการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ เราจะต้องทำความเข้าใจกับสิ่งที่เราจะทำการลงทุนเสียก่อน เพื่อที่จะได้ลดปัญหาความเสี่ยงของการลงทุนนั้นๆ ดังนั้นก่อนที่จะทำการลงทุนจะต้องทำการเช็กลิสต์ ก่อนทำการลงทุนอสังหาริมทรัพย์

อยากลงทุนคอนโด บ้าน และอสังหาริมทรัพย์ทุกชนิด กับเรา คลิก!

1.สำรวจตลาด

สิ่งสำคัญไม่ว่าจะเป็นการลงทุนอะไร ตลาดถือเป็นสิ่งสำคัญมากๆ การสำรวจตลาดก่อนที่จะทำการลงทุน ดูทั้งอุปสงค์-อุปทาน ความต้องการของกลุ่มลูกค้า ระบบการตลาดของอสังหาริมทรัพย์ เป็นสิ่งที่จะต้องเรียนรู้ก่อนที่จะทำการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนแบบปล่อยเช่า ขายใบจอง หรือซื้อเพื่อเก็งกำไรแล้วขายต่อ สิ่งเหล่าจะเป็นไปได้ยาก ถ้าเราไม่สำรวจตลาดก่อนทำการลงทุน ซึ่งเราจะดูตั้งแต่ ทำเลที่ตั้ง พื้นที่นั้นการตลาดของอสังหาริมทรัพย์ มีรูปแบบไปทางใดบ้าง มีการปล่อยเช่ามากน้อยแค่ไหน ลูกค้าชอบเช่า หรือชอบซื้อมากกว่ากัน เพื่อที่จะได้วางแผนการลงทุนถูกตามที่ระบบตลาดต้องการ

2.ดูสภาพทางการเงินก่อนลงทุน

ทุนถือเป็นอีกสิ่งสำคัญในการลงทุนของอสังหาริมทรัพย์ เพราะการลงทุนอสังหาริมทรัพย์จะใช้ทุนในการลงทุนค่อนข้างสูงเลยทีเดียว ในกรณีที่มีเงินก้อนใหญ่ สามารถนำมาลงทุนได้เลย สิ่งนี้ไม่น่ากังวลเท่ากับ คนที่ไม่ได้มีเงินทุนก้อนใหญ่ แต่อยากจะทำการลงทุน ซึ่งจะต้องทำการกู้สินเชื่อกับทางสถาบันทางการเงินต่างๆ ซึ่งการกู้สินเชื่อบ้าน คอนโด ขั้นตอนการพิจารณาจะดูละเอียดและเข้มข้น กว่ารูปแบบสินเชื่ออื่นๆ เพราะเป็นสินเชื่อที่ให้วงเงินที่สูง สำหรับคนที่จะทำการกู้จะต้องเตรียมตัวให้พร้อม สร้างเคติดให้ดีก่อนที่จะทำการยื่นกู้สินเชื่อ และเอกสารต่างที่เกี่ยวข้องต่างๆ ในการขอยื่นกู้

3.ผู้เช่าเป็นใคร?

กำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน ว่ากลุ่มเป้าหมายของเราคือใคร เราจะปล่อยเช่าให้กับใคร อย่างเช่นคอนโด ซึ่งจะต้องดูก่อนว่าทำเลที่ตั้งนั้นอยู่ในบริเวณไหน ถ้าอยู่ใกล้สถานศึกษา มหาวิทยาลัย กลุ่มลูกค้าจะเป็นนิสิต/นักศึกษา และบุคลากรทางการศึกษาต่างๆ ซึ่งราคาในการเช่าก็จะต้องอยู่ในราคาที่ไม่สูงมาก และสิ่งอำนวยความสะดวกจะต้องมีพอเหมาะในการใช้ชีวิตของกลุ่มนิสิตนักศึกษา หรือคอนโดอยู่ในทำเลใกล้ตัวเมือง ใกล้แหล่งออฟฟิศ กลุ่มลูกค้าก็จะเป็นกลุ่มวัยทำงาน คอนโดจะต้องมีลักษณะที่เน้นการใช้งาน เน้นใช้ชีวิตที่สะดวกสบายและราคาพอเหมาะ ดังนั้นการกำหนดเป้าหมาย จะต้องดูทำเลที่ตั้งเป็นสิ่งประกอบการตัดสินใจในการลงทุน

4.การลงทุนทุกอย่างล้วนมีความเสี่ยง

ทุกคนคงจะเคยได้ยินคำว่า “การลงทุนล้วนมีความเสี่ยง” การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ก็มีความเสี่ยงเช่นเดียวกัน เพราะด้วยการลงทุนอสังหาริมทรัพย์นั้นจะต้องใช้ทุนในการลงทุนที่ค่อนข้างสูง และในบางกรณีก็อาจจะต้องกู้สินเชื่อเพื่อนำเอาเงินส่วนนั้นมาใช้ในการลงทุน ยิ่งกู้สินเชื่อมาใช้ในการลงทุนก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการลงทุนเพิ่มมากยิ่งขึ้น สำหรับการลงทุนในรูปแบบปล่อยเช่า จะต้องมีเงินทุนสำหรับ ในกรณีที่ลูกค้าที่เคยเช่า หยุดการเช่ากะทันหัน คอนโด บ้าน ก็จะว่าง และอาจจะขาดรายได้ต่อเดือนนั้นไป สิ่งนี้ก็ถือเป็นความเสี่ยงที่จะต้องรับมือ

สำหรับคนที่ทำการลงทุนแบบปล่อยเช่า ถึงแม้การลงทุนอสังหาริมทรัพย์จะมีความเสี่ยง แต่ถือว่าเป็นรูปแบบการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ แต่ก็ไม่ควรชะล่าใจ การลงทุนจะต้องศึกษารูปแบบการลงทุนให้เข้าใจอย่างลึกซึ้งก่อนทำการลงทุน เพื่อลดปัญหาความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นภายหลัง

5.ตั้งราคาค่าเช่าเท่าไหร่จึงจะเหมาะสม 

ราคาจะเป็นตัวดึงดูดลูกค้าที่จะเข้ามาเช่าคอนโด บ้าน ของเรา การตั้งราคาจะต้องให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายของเรา และสำหรับคนที่กู้สินเชื่อมาใช้ในการลงทุน จะต้องคำนวณค่าเช่าให้สูงกว่าค่าใช้จ่ายหนีที่เราจะได้จ่าย เพื่อไม่ให้การลงทุนของเราขาดทุนมากจนเกินไป และราคาจะต้องเอื้อต่อกลุ่มเป้าหมายของเราด้วย อย่างเช่น คอนโดที่อยู่ในบริเวณ มหาวิทยาลัย ลูกค้าจะเป็นกลุ่มนิสิต/นักศึกษา ที่ไม่ได้มีทุนมากนัก ก็ควรที่จะต้องราคาอยู่ที่ 5,000-10,000 บาท ไม่เกินนี้ หรือกลุ่มวัยทำงานก็ควรที่จะตั้งราคาอยู่ที่ 5,000-20,000 บาท เป็นต้น หรือถ้าไม่อยากที่จะคิดคำนวณมากมาย ให้คิดค่าเช่าเป็นตารางเมตร

อย่างเช่น คอนโดที่มีเนื้อที่ 26 ตารางเมตร คิดค่าเช่า 500 บาทต่อตารางเมตร นำเอา 26×500 จะได้เท่ากับ 13,000 บาท แต่การจะคำนวณค่าจะต้องดูปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วยอย่างเช่น คอนโดอยู่ใกล้ถนนหรือไม่ มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากน้อยแค่ไหน ถ้าเป็นคอนโดที่ไม่ได้มีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรมาก แต่ราคา 13,000 บาทก็เป็นราคาที่สูงมากเลยทีเดียว ดังนั้นก่อนที่จะทำการตั้งราคาควรดูปัจจัยต่างๆ ของคอนโด บ้านของเราว่าเหมาะกับราคานั้นหรือไม่

การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ควรที่จะทำการเช็กลิสต์ทุกครั้ง เพื่อที่จะได้ลงทุนอย่างสบายใจ ไม่ต้องกังวลปัญหาต่างๆ ซึ่งการลงทุนที่ดีจะต้องศึกษารายละเอียดรูปแบบของการลงทุนด้วย ทั้ง สำรวจตลาด และดูสภาพทางการเงินก่อนลงทุน หาลูกค้ากำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน และที่สำคัญจะต้องตั้งราคาให้เหมาะสมเพื่อเป็นการดึงดูดลูกค้า

อ่านบทความ การลงทุน เพิ่มเติม

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *