เลเจนด์ สยาม พัทยา เมืองแห่งตำนาน ธีมพาร์คเชิงวัฒนธรรมไทย

เลเจนด์ สยาม พัทยา

ย้อนเวลาแชะภาพในมุมโปรด ที่ Legend Siam เลเจนด์สยาม Landmark แห่งใหม่ของเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ที่ตอบโจทย์ทุก Lifestyle ของทุก Generation ผ่านสิ่งก่อสร้างสถาปัตยกรรมสวยงามแบบไทย ทั้งรูปแบบอาคารวัดเจดีย์ ป้อมปราการ ยักษ์เฝ้าประตู ช้างสามเศียร พญานาคิณีศรีปทุมมาวิสุทธิเทวี สัมผัสวิถีชีวิตแบบชาวบ้านในโซนวัฒนธรรม 4 ภาค ความครื้นเครงของงานวัด ตลาดโบราณร้อยปี บ้านแม่นาคที่ติดอันดับรีวิว 1 ใน 5 บ้านผีสิงที่หลอนที่สุดในเอเชีย ร้านขายของที่ระลึก ให้ชิม ช้อป แชะ กันแบบเพลิดเพลิน จะมาเที่ยวแบบอบอุ่นทั้งครอบครัว หรือจูงมือเพื่อนฝูงหามุมถ่ายภาพในสไตล์ย้อนยุคก็เก๋ไม่น้อยเลย

ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่รวบรวมอารยธรรม วัฒนธรรม ที่เหนือจินตนาการของสยามประเทศไว้ในที่เดียว มีทั้งการละเล่น เครื่องเล่น อาหาร การกิน มุมย้อนยุค วินเทจ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมายรอต้อนรับทุกคน มีนั่งรถไฟชมเมือง ตลาด 100 ปี เครื่องเล่นในตีมงานวัดมากมาย ตระการตาไปกับ ซุ้มประตูยักษ์คู่ “ทศกัณฐ์” และ “สหัสเดชะ” ยิ่งใหญ่ สูงที่สุด แห่งแรกและแห่งเดียวในโลก

มาร่วมชื่นชมและภาคภูมิใจในอัตลักษณ์ศิลปะและอารยธรรมของไทย ถ่ายรูปมุมสวยคลาสสิค เรียนรู้ประวัติศาสตร์สถานที่ต่างๆ มาถึงพัทยานอกจากเที่ยวคาเฟ่ เที่ยวเกาะ นั่งชิลริมทะเลแล้ว ลองเปลี่ยนบรรยากาศถ่ายรูปหรือมานั่งดื่มชากาแฟ ซึมซับความเป็นไทยในแบบล้ำสมัย แล้วคุณจะชอบ เลเจนด์ สยาม

เปิดให้เข้าชมเวลา 10.00 น. – 22: 00 น.

ราคาบัตร / แพ็คสุดคุ้ม!

บัตรผ่านประตู+รถไฟ ราคา 300 บาท
บัตรผ่านประตู+รถไฟ + ชุดไทย ราคา 400 บาท
บัตรผ่านประตู+ละครป้องปาก ราคา 450 บาท
บัตรผ่านประตู+รถไฟ + รับประทานบุฟเฟ่ต์ ราคา 490 บาท
บัตรผ่านประตู+รถไฟ + ชุดไทย + 5 เครื่องเล่น ราคา 900 บาท
ยักษ์ยกก๊วนราคา 990 บาท
Workshop ข้าวไทย + รับประทานบุฟเฟ่ต์ + รถไฟ + 3เครื่องเล่นงานวัด ราคา 2,000 บาท
Workshop ข้าวไทย + ละคอนป้องปาก + รับประทานบุฟเฟ่ต์ + รถไฟ + 3เครื่องเล่นงานวัด ราคา 3,000 บาท

บัตรยักษ์ยกก๊วน

ประกอบด้วย: บัตรผ่านประตูสำหรับ 5 คน เข้าได้ทุกวันไม่จำกัดจำนวนครั้ง บัตรมีอายุ 1 ปีนับจากวันซื้อ รถไฟ + ลดราคาสินค้าของที่ระลึก 20% + ลดราคาเครื่องเล่น 30% + ช่องจอดรถพิเศษ + บริการห้องรับรองคนสำคัญ

จุดเด่นของเลเจนด์ สยาม พัทยา

เลเจนด์ สยาม เป็นเมืองแห่งตำนานอารยะสยาม ธีมพาร์คเชิงวัฒนธรรมไทยที่นำเสนอตำนานและอารยธรรมอันน่าภาคภูมิใจของสยามประเทศในยุคสมัยต่างๆ ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 164 ไร่ กว่า 100,000 ตารางเมตร มูลค่ากว่า 4 พันล้านบาท แบ่งออกเป็น 3 โซน คือ สยามวิไลซ์ ,ไทยอารยะ และ ภูมิแผ่นดิน

เมื่อเข้าไปจอดรถอันกว้างใหญ่ สิ่งแรกสะดุดตานั้นคือ ยักษ์ 2 ตนที่สูงที่สุดในประเทศไทย คือ ทศกัณฑ์และสหัสเดชะ ที่ยืนเฝ้ากำแพงเมืองอยู่ โดยการออกแบบเป็นในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ส่วนยอดประตูได้แรงบันดาลใจมาจากยอดหลังคาทรงไทยของพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ในส่วนนี้เรียกว่า อาคารเมืองเทพสถิตย์

ที่นี่ได้จำลองโบสถ์พระศรีสรรเพชญ์ ซึ่งด้านในมีพระพุทธรูปเก่าแก่ 9 องค์ ให้กราบไหว้ขอพรประดิษฐานอยู่ พระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ และยังมีสะพานนวรัฐ ที่เป็นสะพานชื่อดังจำลองมาจากเมืองเชียงใหม่ บ้านแม่นาคที่ติดอันดับ รีวิวTop 5 ว่าน่ากลัวสุดๆของเอเชีย รวมถึงจำลองงานวัด มีเครื่องเล่นม้าหมุนสัตว์ป่าหิมพานต์ และอีกมากมาย แถมยังสนุกไปกับการ Selfie ด้วยระบบ AR ตามจุดต่างๆอีกด้วย และต้องตะลึงในความโออ่าอลังการ ของเรือสุพรรณหงส์จำลอง ที่ตั้งโดดเด่นภายในห้อง อย่างสวยงาม

ยังมี รูปปั้นพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางวงเวียน เป็นประติมากรรมปูนปั้นความสูงกว่า 11 เมตร ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คอันศักดิ์สิทธิ์ เพื่อให้ผู้ที่มาเยี่ยมชมได้สักการะ รับพรและประสบพบเจอแต่ความสุขกลับบ้านไป เจ้าหน้าที่บอกว่ามีคนมาแก้บนทุกวันขึ้นชื่อในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์มาก

ด้านหลังรูปปั้นพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ มีการจำลองกำแพงเมืองคล้ายกับป้อมปราการ หรือป้อมพระสุเมรในกรุงเทพ สามารถไปยืนโพสต์ท่าถ่ายภาพสวยๆได้อีกด้วย บอกเลยว่ามุมถ่ายรูปเยอะสุดๆ

อีกโซนหนึ่งที่น่าตื่นเต้นมาก คือ การที่ยกบรรยากาศของตลาด 100 ปี มาไว้ที่นี่ ภายในตลาดมีทั้ง ร้านค้า ร้านขายของ ร้านขายของเล่นโบราณ ร้านขายกาแฟโบราณ ตรงกลางมีที่นั่งรับประทานให้นั่งชมบรรยากาศไปแบบเพลินๆ ให้บรรยากาศเก่าแก่ ย้อนยุคสุดๆ เหมือนหลุดไปในอดีตเลย

สิ่งที่น่าสนใจของ เลเจนด์ สยาม พัทยา

เริ่มต้นที่โซน “สยามวิไลซ์” ที่แสดงให้เห็นถึงความศิวิไลซ์ของกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น เริ่มตั้งแต่กำแพงและประตูเมืองเลเจนด์ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากกำแพงเมืองและป้อมปราการในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ส่วนยอดประตูได้แรงบันดาลใจมาจากยอดหลังคาทรงไทยของพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท โดยที่หน้าประตูนั้นจะเห็นยักษ์ใหญ่ 2 ตนที่สูงที่สุดในประเทศไทย คือ ทศกัณฑ์และสหัสเดชะ ที่ยืนเฝ้ากำแพงเมืองอยู่ เป็นมุมถ่ายภาพมุมแรกที่ทุกคนต้องแวะมาเช็คอินมีความอลังการงานสร้างมาก

ภายในพื้นที่ด้านหน้า เป็นที่ตั้งของร้านกาแฟ Legend Coffee ที่มีจุดเด่นคือใช้กาแฟสายพันธ์พระราชทาน และเสริฟโดย Barista มืออาชีพ ร้านตกแต่งในสไตล์โคโรเนียล หน้าต่างแบบกระจกสามารถมองเห็นวิวข้างนอกได้ เป็นห้องแอร์เย็นสบาย มีทั้งเครื่องดื่มและเบเกอรี่ให้บริการ สามารถแวะนั่งชิลจิบเครื่องดื่มคลายร้อนกันก่อนหรือจะแวะพักหลังจากถ่ายภาพเรียบร้อยแล้วก็ได้

ความโดดเด่นในโซนนี้คือ ภาพวาดจิตรกรรมฝาผนัง เป็นภาพจากวรรณคดีไทยที่รังสรรค์โดยขัวศิลปะจากจังหวัดเชียงราย สีสันสดใสและลวดลายแบบไทยอ่อนช้อยงดงาม ตัดกับกำแพงสีขาว ภาพจะกระจายไปตามในแต่ละมุมของตึก

โซนนี้มีร้านกาแฟในสไตล์คลาสสิค ชื่อ ชานชาลารัก จำลองบรรยากาศของชานชาลารถไฟ แถมจัดพรอพมุมถ่ายภาพ ทั้งกระเป๋าเดินทาง ที่นั่งรอรถไฟ และที่นั่งแบบบาร์มีป้ายชื่อร้านตรงกลางกลายเป็นมุมน่ารัก ที่เหมาะสำหรับมานั่งโพสต์ท่าคูลๆอีกแล้ว

โซนต่อไป “ไทยอารยะ” เพลิดเพลินกับวัฒนธรรมแห่งวิถีพื้นบ้าน เริ่มจาก “พระวิหารและพระสถูปเจดีย์” ที่จำลองมาจากวัดพระศรีสรรเพชญ์ พระนครศรีอยุธยา เป็นเจดีย์สีทองที่มีความสวยงามโดดเด่นมากเดินขึ้นไปยังบันได หันหน้ากลับมามองกล้องได้ภาพสวยเก๋แปลกตา ติดกับเจดีย์คือโบสถ์จำลองเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์และเก่าแก่อยู่ถึง 9 องค์ ว่ากันว่า ไหว้พระในโบสถ์ที่นี่เปรียบเสมือนได้ไหว้พระ 9 วัดในที่เดียว นอกจากนี้ยังมี “สะพานนวรัฐ” ที่จำลองมาจากสะพานนวรัฐ เชียงใหม่ สามารถใช้บริการนั่งเรือหงส์ข้ามผ่านสะพานชมบรรยากาศโดยรอบได้ด้วย

โซนสุดท้าย “โซนภูมิแผ่นดิน” สืบสานพระราชปณิธาน โดยน้อมนำ แนวคิดปรัชญาเศรฐกิจพอเพียงในรัชกาลที่ ๙ มาจัดแสดงผ่านแปลงนาสาธิต และบ้านปลายนา มีกระท่อมปลายนาให้พักพิง มีเถียงนาสำหรับเป็นพื้นที่ถ่ายทอดเรื่องราวสาระความรู้ การสาธิตต่างๆ ให้ชนรุ่นหลังได้มีโอกาสเรียนรู้วิถีชีวิตแบบชนบทได้อย่างถ่องแท้

ในส่วนของพื้นที่ถัดไป จะเป็นหมู่บ้านทรงไทย 4 ภาค ทั้งภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ ภาคกลาง โซนภาคอีสานมีร้านสินค้าพื้นเมืองอย่างชุดม่อฮ่อม และพื้นที่แสดงการทอผ้าตามแบบฉบับท้องถิ่น อยากลองมาเป็นสาวอีสานนั่งทอผ้าแบบไทยเชิญได้เลย

กิจกรรมและร้านอาหาร ที่ห้ามพลาด

ที่นี่มีพื้นที่ให้เราได้สนุกสนาน กับ จุด Hangout ใหม่ “ริมน้ำกลางแปลง” กินหมูกระทะพร้อมชมหนังกลางแปลง ริมแม่น้ำ ในบรรยากาศสุดชิลล์ยามเย็น โอ้ยแม่ฟินมากก เริ่มต้นที่ 199.- ตั้งแต่เวลา 17.00 – 22.00 น. นอกจากนี้ ยังมีร้านอาหารน่าสนใจหลากหลายร้าน ทั้งในตลาด 100 ปี ที่เค้าเน้นว่ามีของดี100 อย่าง และ มีของเล่นเจ๋งๆจากยุค 90 ให้น้องๆได้ช้อปปิ้ง หรือจะร้านข้าวซอยลำดวนฟ้าฮ่าม ต้นตำรับจากเชียงใหม่ ก๋วยเตี๋ยวเรือกรุงศรีรสเด็ด กูโรตีเจ้านี้ห้ามพลาด มีให้เลือกเยอะมาก ขอแนะนำโรตีแป้งหนานุ่ม จิ้มกับนมข้นหวานฟินสุดๆ โรตีแฮมไก่+ไข่+ชีส จานนี้ก็เริส! ทานกับชาเย็นของทางร้านคือปังสุดๆ

และอีกร้าน สำหรับคอกาแฟห้ามพลาด Legend Coffee ที่นี่เค้ามีกาแฟที่เป็นซิกเนเจอร์ประจำตัวของบาริสต้าแต่ละคน อย่างวันนี้ขอแนะนำ 3Musketeers Banana Iced Coffee เป็นกาแฟที่ผสม+นม+กล้วย บอกเลยทั้งหอม หวาน มัน แก้วนี้ ราคา 125.- แนะนำว่าต้องไปโดนสักครั้ง

เรายังสามารถใช้บริการ นั่งรถไฟ ในราคา 70 บาท ขึ้นลงได้ทั้งวันไม่จำกัดรอบ หรือจะเช่ารถจักรยาน 3 ชั่วโมง 50 บาท หรือรถกอล์ฟ ชั่วโมงละ 300-400 แล้วแต่ขนาดรถ และยังมีนั่งเรือหงส์ เรือพาย และรถตุ๊กๆ ในราคาเริ่มต้น 100 บาท อีกด้วย (ส่วนผู้สูงอายุ มีบริการ Wheelchair ฟรี) และสำหรับคนที่อยากแต่งตัวให้เข้ากับบรรยากาศ ที่นี่มีบริการชุดไทยให้ใส่เดินเที่ยวด้วย ช่วยเพิ่มความฟินและเข้ากับสถานที่ไปอีก

อีก 1 เครื่องเล่นในนี้คือ Black Magic มนต์ดำเขาวงกต ที่สนุกและตื่นเต้น ในราคาเพียง 50 บาท ต่อคน กำแพงทางเข้าสวยมากภายในโซนไทยอารยะ มีการจำลองบรรยากาศของงานวัดแบบไทย ให้เราสนุกไปกับเครื่องเล่นต่างๆ ทั้ง ชิงช้าสวรรค์ กินรีกินนร ม้าหมุน และไวกิ้งปลาอานนท์

ปิดท้ายด้วยการนั่งเรือแบบโบราณ ชมบรรยากาศโดยรอบ ไปสักการะรูปปั้นนางพญานาคิณีศรีปทุมมาวิสุทธิเทวี หรือ เจ้าย่าศรีปทุมมานาคิณีเอกอัครมเหสีขององค์นาคาธิบดีศรีสุทโธ หรือเจ้าปู่ศรีสุทโธ มหาเทพนาคาผู้ยิ่งใหญ่ หากอธิษฐานจิตขอในสิ่งที่ไม่เบียดเบียนผู้อื่น จะสัมฤทธิ์ผลสมหวังดั่งใจปรารถนาทั้งเรื่องโชคลาภ การงาน และความรัก เจ้าหน้าที่บอกว่าศักสิทธิ์มาก เด่นเรื่องเลข และการค้าขาย มีคนมาขอได้สำเร็จมาหลายราย

แผนที่

“เลเจนด์ สยาม” เมืองแห่งตำนาน อารยะสยาม ธีมพาร์คเชิงวัฒนธรรมไทย ที่นำเสนอตำนานและอารยะธรรมอันภาคภูมิใจของสยามประเทศในยุคสมัยต่างๆเต็มรูปแบบแห่งแรกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จุดหมายปลายทางจุดสำคัญของเมืองพัทยาที่ทุกคนต้องเยี่ยมชม เป็นโชว์รูมของประเทศที่นำเสนออัตลักษณ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศให้เผยแพร่สู่เวทีโลก ผ่านศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี ความเชื่อ วิถีชีวิต สินค้า อาหารคาวหวาน การละเล่น การร้องรำ อันเป็นรากเหง้าแห่งเอกลักษณ์ความเป็นชาติของไทย